นกกระเรียงตอบแทนบุญคุณ
สุรุโนะ โองไคชิ.... tsuru no unkaisi...นกกระเรียงตอบแทนบุญคุณ แปลและเรียบเรียงเรื่องราวโดย สุขุมาลย์ |
นานมาแล้วมีชายหนุ่มผู้ยากจนผู้หนึ่ง อาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยวและเดียวดายตัวคนเดียวไม่มีพ่อแม่ และแม้แต่พี่น้องสักคนเดียวอยู่ ณ ที่บ้านกลางเขาแห่งหนึ่ง....ชายหนุ่มผู้นี้มีอาชีพตัดไม้และหาของ ป่า แล้วจะนำลงไปขายที่ในเมืองหาเลี้ยงตัวไปวันๆเรื่อยมา ชายหนุ่มผู้นี้นั้นถึงแม้ว่าเขาจะยากจน หาเช้ากินค่ำก็ตาม แต่เขาก็เป็นคนที่ขยันขันแข็งและเป็นคนดีมีเมตตามากคนหนึ่ง วันหนึ่งซึ่งเป็น กลางฤดูที่หนาวเย็น หิมะตกปกคลุมทั่วไปไม่มีของป่าที่จะหาเก็บและนำไปขายได้นั้นชายหนุ่มจะ ขึ้นมาบนเขาและหาตัดไม้เพื่อเก็บสะสมเอาไว้ วันนี้ก็เหมือนกันเขาขึ้นมาบนเขาและตั้งหน้าตั้งตา ตัดไม้อย่างขมักเขม่น ไม่ได้สนใจว่าจะมีหิมะตกจนท่วมเขาและเดินลำบากลำบนแค่ไหนก็ตาม |
เขาหาตัดไม้ไปเรื่อย ๆจนมืดค่ำลงแล้ว จึงเดินลงเขามาเรื่อย ๆเพื่อที่จะกลับที่อยู่อาศัยของตน แล้วกลางทาง ขณะที่ชายหนุ่มกำลังเดินกลับที่อยู่ ๆนั้น...ก็มีอะไรบางอย่างเห็นเป็นสีขาว ๆ ลอยละลิ่วล่วงตกลงมา จากท้องฟ้าเบื้องบน ชายหนุ่มพยายามเพ่งมองก็เห็นเป็น นกกระเรียงสีขาว สวยงามมากตัวหนึ่งกำลังนอนดิ้น ทำท่าทางเหมือนกับจะปีกหักอะไรทำนองนั้น และนอนร้องอยู่เหมือนจะเจ็บและทรมานอย่างมาก เจ้านก กระเรียงนอนดิ้นรน ร้องขอความช่วยเหลืออยู่อย่างน่าเวทนา..." ทำไมอยู่ ๆก็บินตกลงมานะ " ชาย หนุ่มรำพึงออกมาด้วยความสงสัย |
เขาจึงรีบเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ จึงเห็นว่าที่ปีกของนกกระเรียงตัวนั้นมีลูกธนูอันใหญ่ปักอยู่ " ใครกันนะที่ทำ แบบนี้ได้ น่าสงสารเจ้าเหลือเกิน โถ...คงจะเจ็บมากสินะ " ชายหนุ่มให้นึกสงสาร เจ้านกกระเรียงขาวที่ โชคร้ายตัวนี้ขึ้นมาอย่างจับใจ...เขาเลยเข้าไปอุ้มเจ้านกกระเรียงตัวนั้นอย่างถนุถนอมเพื่อไม่ให้มันตกใจ ไปมากกว่านี้อีก แล้วจึงค่อย ๆดึงลูกธนูที่ติดอยู่ที่ปีกของมันออกให้ |
พอดึงลูกธนูออกแล้วชายหนุ่มก็จัดการล้างบาดแผลที่มีแต่คราบเลือดนั้นด้วยน้ำกินในกระบอกที่เขาพกติดตัว อยู่ เมื่อล้างแผลเสร็จแล้วเขาก็ฉีกชายเสื้อที่เขาสวมใส่อยู่นั้นมาพันรอยแผลให้...เจ้านกกระเรียงตัวนั้นมัน จ้องมองชายหนุ่มอยู่ตลอดเวลาที่เขาทำแผลให้มันเหมือนกัน เหมือนมันซึ้งในน้ำใจและขอบคุณเขา อย่างที่สุด...เมื่อทำแผลให้เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วชายหนุ่มก็พูดกับมันว่า " ส่า...อีกสักพักเจ้าก็จะหายเป็น ปกติ...ไป..กลับไปที่ ๆของเจ้าได้แล้ว..แล้วก็ระวังตัวให้ดีอย่าให้ใครเขายิงเจ้าได้อีก รู้ไหม ? " |
แล้วเจ้านกกระเรียงขาวตัวนั้นก็กระพือปีก..พรึ่บๆๆๆ...แล้วส่งเสียงอันดังร้องขึ้นเหมือนมันดีใจก่อน ที่จะทยานบินขึ้นสู่ท้องฟ้าโผบินจากตรงนั้นไปอย่างเชื่องช้า จากตรงนั้นไปในทันที....ชายหนุ่มยืนมองนก กระเรียงขาวที่โผบินไปสู่อิสระได้อีกครั้งตัวนั้นอย่างนิ่งนาน เขามองจนเจ้านกกระเรียงขาวตัวนั้นบิน จนหายลับไปจากสายตาของเขาเลยทีเดียว..เขานึก...ว่ามันคงจะดีใจที่ได้รอดชีวิตนะ...แล้วเขาก็ดีใจและ มีความสุขที่ได้ช่วยชีวิตของมันไว้...ขอให้เจ้าจงปลอดภัยเถิด...เขานึกอธิฐานให้มันแล้วเดินกลับที่อยู่อาศัย อันเปล่าเปลี่ยวและเดียวดายของตนไปเหมือนกัน |
แล้วจากวันนั้นมาอีกหลายวันเหมือนกันของคืนวันหนึ่ง...มีเสียงเหมือนมีคนมาเคาะประตูกระท่อม ของชายหนุ่มอยู่...." กอ้ง ๆๆๆ" เมื่อชายหนุ่มลุกขึ้นไปเปิดประตูดูก็เห็นว่าได้มีหญิงสาวผู้ที่มีความ งดงามอย่างที่จะหาที่เสมอเหมือนแล้วมิได้นางหนึ่งยืนนิ่งสงบอยู่....ที่ตัวนางนั้นตั้งแต่หัวจรดเท้า และที่เสื้อผ้านั้นมีแต่หิมะปกคลุมเลอะเทอะจนเป็นสีขาวขาวโพลนไปหมดทั้งตัว นี่นางคงจะเดินฝ่า หิมะมาเป็นเวลานานมากอย่างแน่นอน...เขาคิด |
ด้วยชายหนุ่มนั้นเป็นคนใจดีมีเมตตาอยู่ เขาจึงนึกสงสารนางที่ต้องยืนอยู่ท่ามกลางความหนาวเย็นแบบ นั้น จึงบอกกับนางว่า " ข้างนอกน่ะหนาวมากนะ ก่อนอื่นถ้านางจะมีธุระอะไรก็เข้ามาข้างใน บ้านก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะไม่สบายไป..เชิญ ๆเข้ามาข้างในก่อนเถอะ..แล้วค่อยพูดถึงธุระของนางนะ " หญิงสาวนางนั้นทำท่าทางเหมือนโล่งใจอะไรบางอย่าง...แล้วนางจึงเอ่ยกับชายหนุ่มเจ้าของบ้านว่า " ข้าเดินหลงทางมาไกลเหลือเกิน ต้องเดินวกไปวนมาด้วยหาทางไม่ถูก คืนนี้ดึกมากแล้วอยากจะ ขอความกรุณาจากท่าน ขอให้ข้าได้ค้างที่นี่สักคืนด้วยเถิด " |
ชายหนุ่มนิ่งฟังและพยักหน้ารับคำนางแล้วเขาจึงพานางเข้ามานั่งผิงไฟที่ก่อไว้อยู่ตรงกลางบ้านแล้วบอกกับ นางว่า "เชิญนางนั่งผิงไฟให้ร่างกายอุ่นเสียก่อน...ทำตัวให้สบาย ๆไม่ต้องเกรงใจข้าหรอก" หญิงสาว ยิ้มรับแล้วลงนั่งพร้อมกับมองไปรอบ ๆ นางเห็นสำรับอาหารที่ชายหนุ่มคงจะเตรียมไว้เพื่อจะกินมื้อนี้ ด้วยชายหนุ่มนั้นตัวคนเดียวและหมู่นี้เขาก็ไม่ได้เข้าไปในเมืองเพื่อหาซื้ออะไร อาหารที่เขาตั้งสำรับวาง ไว้นั้นจึงมีแต่ข้าวกับผักดองอย่างเดียวเท่านั้นเอง....แต่เขาก็ยังเชื้อเชิญให้นางกินอีกด้วย นางจึงบอก กับเขาว่า |
" ข้ามีเสบียงอาหารพกติดตัวมาด้วย อนุญาติให้ข้าได้ทำอาหารให้ท่านเพื่อเป็นการตอบแทนด้วยเถิด " แล้วนางก็ล้วงเอาห่อผ้าที่นางพกเสบียงอาหารติดตัวนั้นออกมาและจัดการทำอาหารให้ชายหนุ่มทันที แล้วนาง ยังเล่าเรื่องของนางให้ชายหนุ่มฟังอีกด้วยว่า นางนั้นพ่อแม่ได้ตายลงเสียหมดแล้ว ต้องอยู่ตัวคนเดียว และก่อนตายพ่อของนางได้บอกว่ามีเพื่อนคนรู้จักกันอาศัยอยู่ที่เมืองนี้ นางจึงดั้นด้นมาที่เมืองที่นาง ไม่เคยมาและรู้จักมาก่อน นางเลยต้องหลงทางแลัวเดินวกไปวนมาจนมาถึงบ้านของเขาอย่างที่เขาเห็น นี่แหละ |
แต่ว่าแม้แต่จะเป็นวันรุ่งขึ้นและรุ่งขึ้นมาอีกวันแล้วก็ตาม หิมะก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกให้เลยสักนิดเดียว ยังคงตกหนักอยู่อย่างนั้นไม่ยอมหยุด...หญิงสาวและชายหนุ่มจึงออกไปไหนไม่ได้...หญิงสาวนางนั้น จึงหันมาปฏิบัติพัดวีชายหนุ่มให้โดยการทำอาหารที่มีเสบียงอยู่เหลือน้อยนิดนั้น แล้วนางยังเย็บปักถักร้อย เก่งเป็นเยี่ยมเลยทีเดียวอีกด้วย...นางขยันไม่ปล่อยเวลาให้ปล่าวประโยชน์เที่ยวตามเก็บเสื้อผ้าเก่า ๆของชาย หนุ่มมาปะและซ่อมให้...นางคงคิดตอบแทนที่ชายหนุ่มให้ที่พักหลบหิมะมาตั้งหลายวันนั่นเอง |
แล้ววันนี้หิมะก็หยุดตกลงแล้ว ท้องฟ้าแจ่มใสพระอาทิตย์ได้เวลารีบออกมายื่นหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส แต่ว่า หญิงสาวกำลังจะต้องจากไปชายหนุ่มรีบวิ่งตามนางไปและตรงเข้าจับมือนางไว้แล้วพูดบอกนางว่า " ถ้านางยังไม่ตกลงปลงใจที่จะไปอยู่กับใครละก็...ได้โปรดอยู่ที่นี่กับข้าเถิด...ข้าอยากให้นางอยู่ที่นี่ตลอด ไป..นะ...อย่าจากข้าไปเลย " แล้วจึงเป็นด้วยการนี้ทั้งสองเลยตกลงปลงใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันนับ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา...อย่างมีความสุข |
อยู่มาวันหนึ่งหญิงสาวผู้เป็นภรรยาของชายหนุ่มแล้วนั้นได้ขอร้องให้เขาสร้างห้องเล็ก ๆให้ขึ้นที่ข้าง ๆบ้าน " ข้าอยากจะทอผ้าเพื่อให้ท่านนำไปขายบางทีเราอาจโชคดีขายได้เงินมาซื้ออาหารดี ๆไว้กินบ้าง " ชายหนุ่ม จึงรีบทำตามที่นางขอร้องคือสร้างห้องเล็ก ๆขึ้นให้นางห้องหนึ่ง....เมื่อสร้างห้องที่นางต้องการเสร็จแล้ว วันนี้นางจะเข้าไปทอผ้าชายหนุ่มรีบไปหาเศษไหมมาให้นางแต่ก่อนที่นางจะเข้าห้องไปนั้นนางได้ หันมาสั่งกับชายหนุ่มอย่างเอาจริงเอาจังว่า... |
สุรุโนะ โองไคชิ....(2)
tsuru no unkaisi...นกกระเรียงตอบแทนบุญคุณ
tsuru no unkaisi...นกกระเรียงตอบแทนบุญคุณ
แปลและเรียบเรียงเรื่องราวโดย สุขุมาลย์
" ขอให้ท่านจงมีแต่ความสุข ข้าจำต้องขอลา ลาก่อน...ฮื่อๆๆ " เมื่อนางพูดลาชายหนุ่มจบแล้วหญิงสาวก็เดินออกไป พอร่างของนางออกมาพ้นประตู ก็ค่อยๆ กลับร่างเป็นนกกระเรียง สีขาวอีกครั้งแล้วทยาน บินขึ้นสู่ท้องฟ้า บินสูงขึ้น สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ชายหนุ่มนั้นก็รีบวิ่งตามนางออกมา แล้วชายหนุ่มเห็นนกกระเรียงตัวนั้นกำลังบินอยู่บนท้องฟ้า เขาตะโกนจนสุดเสียงว่า "...ข้าไม่ดีเอง ข้าผิดไปแล้ว ได้โปรดอย่าจาก ข้าไปเลย.." แต่ไม่ว่าชายหนุ่มจะร่ำให้ คร่ำครวญ และตะโกนร้องเรียกอย่างไร นกกระเรียงขาวตัวนั้น ก็ไม่มีท่าทีที่จะหันกลับมามองชายหนุ่มผู้เป็นสามีอีกเลย... ยังคงบิน สูงขึ้นๆ และกระพือปีก เป็นครั้งสุดท้าย เหมือนจะกล่าวลาเขา...และลาจากการเป็นมนุษย์....แล้วบินหายลับ..... ไปจากท้องฟ้า ในที่สุด........
END
แปลและเรียบเรียงโดย สุขุมาลย์
*คำว่านกกระเรียงหรือนกกระเรียนนี่ จขกท.ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าใช้ตัวไหนสะกดกันแน่ เมื่อค้นจากกูเกิ้ล ก็เจอแต่คำว่านกกระเรียน แต่เครดิตผู้แปลใช้ง.งู สะกด ดังนั้นจึงคงไว้ซึ่งต้นฉบับเดิม
แปลและเรียบเรียงโดย สุขุมาลย์
*คำว่านกกระเรียงหรือนกกระเรียนนี่ จขกท.ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าใช้ตัวไหนสะกดกันแน่ เมื่อค้นจากกูเกิ้ล ก็เจอแต่คำว่านกกระเรียน แต่เครดิตผู้แปลใช้ง.งู สะกด ดังนั้นจึงคงไว้ซึ่งต้นฉบับเดิม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น