วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ดูการศึกษานอกกรอบระบบเดิม มุ่งพัฒนาเด็กให้เป็นมนุษย์ที่มีบุคลิคภาคสมดุล-เมืองยีหลัน ไต้หวัน




 สนใจการศึกษาแนว Waldolf มานานแล้ว ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนตามแนว Walfdolf ที่ประเทศไต้หวัน ชื่อโรงเรียนอนุบาล Ci Xing Wardolf School เมืองยีหลัน ออกเดินทางออกจากไทเปไปประมาณ ชั่วโมงกว่า ก็มาถึงโรงเรียน บรรยากาศที่ตั้งของโรงเรียนตั้งอยู่ย่านชุมชนเล็กๆ ประชากรแถวนั้นส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตกร เมื่อเดินทางมาถึง เดินลงสำรวจรอบโรงเรียน โรงเรียนบรรยากาศดีมาก วันนั้นที่ไปชมเป็นวันเสาร์แต่โรงเรียนมีงานจัดกิจกรรมพิเศษ และได้เตรียนมรับคณะดูงานจากเมืองไทย โรงเรียนมีต้นไม้ร่มรื่น มีการปลูกต้นไม้นานาชนิด มีบริเวณที่ปลูกผัก เครื่องเล่นสนามแนวธรรมชาติ มีเชือกให้ปีนป่ายต้นไม้ บ่อทราย ชิงช้า และมีส่วนบริเวณเลื้ยงสัตว์ ที่เห็นวันนั้นก็มีกระต่ายน่ารักๆ อยู่ในกรงใหญ่ ยังไม่ได้ไปดูการสอนเลย ก็ชอบความร่มรื่น สบาย สบาย แนวคิดก็เพื่อให้เด็กได้ศึกษาเรียนรู้ จากธรรมชาติรอบโรงเรียนจริงๆ

 มาชมห้องเรียนว่าเค้าจัดห้องเรียนอย่างไร เข้าไปถึงห้องเรียนจัดเป็นมุมของเล่นต่างๆ อุปกรณ์การสอนมากมาย ของแต่ละชิ้นที่ให้เด็กเล่น จะเป็นของเล่นจากธรรมชาติ เช่น ไม้ เปลือกหอย ผ้าย้อมสี คุณครูผู้พาชมได้อธิบายวิธีการเล่น เช่น ท่อนไม้ ให้เด็กไว้เล่นโดยให้เด็กที่คิดจินตนาการเอง ว่าท่อนไม้ที่เค้าเล่นอยู่เป็นรถยนต์ หรือเป็นโทรศัพท์ และทำท่าทางสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่าง ส่วนผ้าย้อมสีต่างๆ ในตระกร้า ก็ให้เด็กนำมาเล่น ผูกเป็นเสื้อ เป็นหมวก แล้วแต่จะจินตนาการเช่นกัน ตอนแรกก็สงสัยอยู่ว่า สิ่งต่างๆ ที่จัดในห้องเรียนเค้าใช้ทำอะไร ทำไมไม่ใช้ของเล่นสำเร็จรูป ที่มีผลิตขายกันอยู่ทั่วไป จะไม่มีให้เห็นในห้องเรียนที่นี้เลย และมุมตุ๊กตาไหมพรม มีให้เลือกมากมาย เป็นตุ๊กตารูปคน และสัตว์ต่างๆ แต่สิ่งที่สังเกตเห็นตุ๊กตาจะไม่มีรูปหน้าตา จมูก ปาก จากแนวคิดที่ต้องการให้เด็กสร้างจินตนาการของตนเอง ตุ๊กตาใครก็มีในใจของตนเอง ไม่ยึดรูปแบบที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้อื่น เป็นเช่นนี้เอง ว่าถ้าเด็กเรียนที่นี้โรงเรียนจะไม่อนุญาตให้ดูทีวี ผู้ปกครองก็ต้องให้ความร่วมมือด้วย เพราะว่าการดูสิ่งต่างๆในทีวีอาจจะไปปิดกั้นจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ของเด็ก โดยครูยกตัวอย่างว่า ถ้าเด็กได้ดูการ์ตูนดิสนีย์ ก็จะมีภาพของ เป็ดโดนัล หรือไม่มีเจ้าหญิงของตนเอง เด็กควรจะสร้างเองโดยอาศัยสิ่งแวดล้อมที่ดี และบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติรอบตัว

สาธิตการเล่น สมมุติว่าท่อนไม้เป็นโทรศัพท์

"สิ่งที่ไม่รู้เป็นโชคชะตา สิ่งที่เรารู้อาจเปลี่ยนแปลงได้"

 แนวคิดในการจัดการเรียนการสอน แบบ 3 R  
-Rhythm การกระทำที่ทำตามจังหวะ เหมือนลมหายใจเข้าออก
-Repetition การกระทำซ้ำๆ เพื่อให้เกิดความลึกซึ้ง
  -Respect การกระทำที่แสดงออกถึงความเคารพ นอบน้อมต่อกันและกัน และเห็นคุณค่าของสิ่งต่างๆ

 แนวคิดของ Steiner การจัดการศึกษาแบบ Waldorf เหมือนหลักพัฒนาการเด็ก ขั้นตอน ของPiaget ดังนี้
-เด็กวัยปฐมวัยเรียนรู้โดยผ่านประสาทสัมผัส ผ่านการจัดทำกิจกรรมต่างๆ
-เด็กวัยประถมศึกษา (7-14 ปีเน้นพัฒนาการทางด้านอารมณ์ และสุนทรีย์ทางด้านศิลปะ ผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ โดยการแสดงออกด้านการแสดงออกต่างๆ
-เด็กวัยรุ่น เน้นพัฒนาการด้านสติปัญญา ความมีเหตุผล และความรับผิดชอบต่อสังคม

 กลับมาเล่าถึงการจัดกิจกรรมของโรงเรียนนี้ กิจกรรมหลักที่ทำอยู่เป็นประจำ ร้องเพลง 20 นาที ทุกวัน เป็นกิจกรรมกลุ่ม ประมาณ 10 โมงครึ่งหลังจากเข้าเรียน เล่านิทาน นิทานเรื่องเดียวกันเล่าติดต่อกันทุกวัน สัปดาห์  



 ตารางกิจกรรมประจำวัน
 วันจันทร์ สอนเรื่องปั้นเทียน (DIY)
 วันอังคาร สอนการอบขนมปัง
 วันพุธ สอนเรื่องการระบายสี
 วันพฤหัส สอนเรื่องหัตถกรรม
 วันศุกร์ สอนเรื่องการทักไหมพรม
 ทำเป็นจังหวะแบบนี้ เด็กจะจำได้ ทุกวันเป็นข้ันตอนเดียวกัน โมงเช้า ครูเข้าทำงาน มาพบกัน ร่วมกันท่องกลอน ร้องเพลง อวยพรซึ่งกันและกัน ช่วงเช้าจะเป็นเวลาอิสระของเด็ก ให้เล่นตามอิสระ พร้อมทำกิจกรรมประดิษฐ์ต่างๆ

เล่านิทาน  ก่อนการเล่าครู เล่นพิณเป็นเพลงเบาๆ
ปั้นดินตามจินตนาการ


 ผู้ปกครองและครูต้องมีส่วนร่วมกัน เช่น การประดิษฐ์ตุ๊กตาไหมพรม และมอบให้กับเด็ก เด็กต้องดูแลตุ๊กตาของตน เด็กก็อยากมาโรงเรียน และการย้อมสีผ้าต่างๆ จะเห็นได้ว่าที่โรงเรียนจะใช้ผ้าย้อมสีจำนวนมาก เป็นทั้งผ้าม่าน ผ้าคลุมโต๊ะ ปูที่นอน ร่วมทั้งให้เด็กเล่นตามจินตนาการ เช่นเอามาผูกตัว แล้วจินตนาการว่าเป็นชุดหมอ ชุดพยาบาล หรือผูกผมทำเป็นหมวก เป็นต้น จากการสังเกตรอบห้องจะใช้ผ้าม่านสีชมพูอ่อน ครูอธิบายว่าเค้าต้องการให้เด็กรู้สึกถึงความอบอุ่น ปลอดภัย เสมือนอยู่ในครรภ์ของมารดา  


 ครูเป็นผู้คอยสังเกตอยู่เสมอว่าเด็กกำลังเล่นอะไรอยู่ เด็กมักนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่มามาเล่นที่โรงเรียน เช่นเด็กเล่นเป็นคุณแม่กำลังท้อง เนื่องจากคุณแม่ของเด็กกำลังต้ังครรภ์ หรือคุณพ่อขับรถไปเติมน้ำมัน การจ่ายเงิน การรับน้ำหรือทิชชู เมื่อได้รับการบริการ ครูจะให้เวลาเด็กได้ปลดปล่อยตนเองในการเล่นในห้องเรียน  
 การวาดภาพสีน้ำ สีที่ใช้จะใช้แค่ สี สีแดง สีน้ำเงิน และสีเหลือง วาดบนกระดาษเปียก Wet to Wet Paint
ระดับอนุบาลก็จะให้วาดภาพอิสระ ประถม ถึงเริ่มสอนเทคนิคการวาด
 อาหารที่รับประทานเน้นการทานมังสวิรัติ และมีการร้องเพลงขอบคุณ
เป็นการจัดการศึกษาเพื่อมนุษย์จริง  อยากให้โรงเรียนในประเทศไทยจัดการศึกษาแนวนี้คงจะดี  ยิ่งโรงเรียนตามต่างจังหวัด นักเรียนเรียนแล้วก็อยู่พัฒนาหมู่บ้านของตนเอง ไม่ต้องดิ้นรนมาเข้ากรุงกัน  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น